#ADB #ทันหุ้น – ADB โชว์ผลงานปี 64 กวาดกำไรเข้าพอร์ต 75.68 ล้านบาท แม่ทัพหญิง “พรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย” ลั่นคอมปาวด์การแพทย์โตเด่น กางกลยุทธ์ปีขาล ขอรักษามาร์เก็ตแชร์ PVC สายไฟอันดับ 1 ใน 3 เร่งเครื่องดันมาร์จิ้น ลุยส่งออกกาว ซิลิโคนยาแนวสู่ตลาดแอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง
นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ กาวสำหรับอุตสาหกรรม และผลิตภัณฑ์ยาแนว เปิดเผยว่า ปี 2565 ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือต้นทุนวัตถุดิบ เพราะทิศทางราคาวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา ขณะที่ในครึ่งปีแรกปี 2565 บริษัทจะพยายามผลักดันอัตรากำไร(มาร์จิ้น) ให้เติบโตสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทจะเพิ่มยอดขาย และรักษามาร์เก็ตแชร์ PVC Compound และ PVC สายไฟ ให้อยู่ลำดับ 1 ใน 3 ซึ่งบริษัทมีวอลุ่มยอดขายสินค้า PVC ไม่ได้เล็กและไม่ได้ใหญ่มากเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น
** กลุ่มสินค้าขายดี
ขณะที่ทิศทางการเติบโตสินค้ากลุ่ม PVC Compound จะเป็นพระเอก หรือมียอดขายสูงสุดของบริษัท ซึ่งคาดจะเห็นการเติบโตชัดเจนมากในไตรมาส 1/2565 โดยปี 2565 จะเป็นปีเตรียมก่อนเลือกตั้ง ทำให้งบประมาณการใช้สายไฟฟ้าลงดินจะมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นดีมานด์ใช้ PVC Compound กลุ่มสายไฟจะเห็นภาพชัดเจนในปี 2565
อีกทั้งMedical Grade PVC Compound หรือกลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์ คาดจะมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ทำให้บริษัทวางแผนจะเพิ่มไลน์ผลิตสินค้าอีก 2 ไลน์ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต สำหรับงบลงทุนจะอยู่ที่ 5-10 ล้านบาทต่อเครื่อง และจะทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 50% ของยอดขายสินค้ากลุ่ม Medical Grade PVC Compound
โดยสินค้ากลุ่มนี้จะทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นสูง และน่าจะทดแทนกับมาร์จิ้นกลุ่ม PVC Compound ที่มีแนวโน้มลดลง หลังราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น
** รุกส่งออกกาว
ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นการส่งออกสินค้ากลุ่มกาว ซิลิโคนยาแนว(Silicone Sealant) เพราะบริษัทเห็นช่องทางการส่งออก และดีมานด์ในการใช้กาว ซิลิโคนยาแนวค่อนข้างสูง โดยเฉพาะประเทศแอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง สำหรับสัดส่วนการขายสินค้ากลุ่มดังกล่าวขายต่างประเทศ 50-60% และขายในประเทศ 40%
ส่วนภาพรวมยอดขายปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มขึ้นแตะ 2 พันล้านบาท หากเป็นอัตราการเติบโตถือว่าอยู่ในระดับสูง และคาดว่าจะได้ตามแผน เพราะบริษัทปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ และเตรียมผลักดันยอดขายให้ได้มากที่สุด
ด้านผลประกอบการปี 2564 มีกำไรสุทธิ จำนวน 75.68 ล้านบาท จากเดิมกำไรสุทธิ 69.66 ล้านบาทในปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 6.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 8.64% โดยสาเหตุที่บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นหลักมาจากการเติบโตของกำไรของทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะในกลุ่มเม็ดพลาสติกคอมปาวด์จากความต้องการสินค้าเพื่อนำไปผลิตสายไฟและสายเคเบิ้ลขนาดใหญ่ในกลุ่มงานด้านสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐ
** ผลงานสดใส
ส่วนรายได้ปี 2564 อยู่ที่ 1,700.05 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 308.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 22.55% จากการขายผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์สำหรับใช้ทางผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 84.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 75.98% จากยอดขายปีก่อนหน้า จากความต้องการเม็ดพลาสติกใช้สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์
ด้านคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 36.30 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 เมษายน 2565 และกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2565 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565