นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ เเละกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 1/2566รายได้ของบริษัทมีอัตราการเติบโตของบริษัทลดลงประมาณ 17%เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ที่มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่นำไปผลิตสายไฟฟ้าให้กับทั้งภาครัฐบาล และงานทั่วไปรองรับงานก่อสร้างของภาคเอกชน ได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้ลดลงในการผลิตสายไฟ สายเคเบิล เเต่ทางด้านเม็ดพลาสติกสำหรับเกรดใช้งานทั่วไป ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่ผ่านมา
ขณะที่ในกลุ่มกาวและยาแนวถือว่าปรับตัวดีขึ้น โดยจะเน้นฐานลูกค้าในกลุ่มงานรับเหมาก่อสร้างและซ่อมแซมภาคเอกชน และนำไปใช้ในกลุ่มรองเท้าและเครื่องหนัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กาวสำหรับยึดติด ซึ่งความต้องการกาว ในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาโดยบริษัทได้ขยายตลาดผลิตภัณฑ์กาวอุตสาหกรรมไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างในประเทศไนจีเรีย เป็นต้น
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มกาวและยาแนวขนาดเล็ก DIY Product ใช้ในงานซ่อมแซมหรือตกแต่งรถยนต์อุปกรณ์ในรถยนต์ เป็นต้น
นอกจากนี้ในไตรมาส 1/2566 โครงสร้างต้นทุนวัตถุดิบ เรซิ่น และสารเติมแต่ง หรือ Plasticizer ในตลาดโลกถือว่ายังมีความผันผวนของราคาวัตถุดิบอยู่ เนื่องจากอ้างอิงราคาน้ำมันในตลาดโลก รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็ทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นผลทำให้บริษัทขาดทุนในช่วงไตรมาสที่ 1/2566 อยู่ที่ราว 18.36 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทคาดทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากมีการเลือกตั้ง ซึ่งจะสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศให้ตื่นตัวมากขึ้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยการบริโภคปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับสต๊อกสินค้าที่มีราคาสูงของบริษัท จะสามารถบริหารจัดการได้ดีขึ้น โดยก็คาดว่าจะสามารถปรับงบกำไรขาดทุนให้กลับมาดีขึ้นให้ได้ภายในไตรมาสนี้
สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมองว่า ภาพรวมในประเทศคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนการส่งออกต่างประเทศยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากอาจจะมีภาวะเงินเฟ้อเข้ามากระทบและภาวะชะลอตัวลงของโลก อีกทั้งบริษัทเตรียมแผนเจาะตลาดในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติม โดยการหาตลาดใหม่จากการเข้าไปงานนิทรรศการในต่างประเทศเพื่อหาลูกค้าเพิ่มเติม